วันอาทิตย์ที่ 4 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

นิทานหอศิลป์ 57 วันที่ 6


จระเข้กับยีราฟ

จระเข้ใจดีตัวหนึ่ง  วันหนึ่งๆได้แต่ลอยน้ำเล่นไปมาอย่างสบายใจ ไม่เคยคิดจะทำร้ายใคร  บางครั้งนานๆที ก็มีนกกระสามาอาศัยยืนบนหลังจระเข้ แล้วข้ามไปอีกฟากของแม่น้ำ  โดยไม่ต้องเสียแรงบิน  บางครั้ง ก็มีกระรอก หรือ สัตว์ตัวเล็กๆอื่นๆ  อาศัยนั่งข้ามฟากไปมา เพื่อไปหากินยังแหล่งใหม่ๆ แต่จระเข้ก็ไม่เคยว่าหรือพร่ำบ่นอะไรเลยแม้แต่น้อย

วันหนึ่ง  ขณะที่จระเข้กำลังเบื่อกับการมองเห็นทัศนียภาพเดิมๆในแนวราบ  จระเข้ก็ประสบพบเห็นเงาของสัตว์ชนิดหนึ่ง ที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อน  มันเป็นสัตว์ที่มีขายาวมาก แต่นั่นก็เป็นสิ่งเดียวที่จระเข้เห็นได้ เนื่องจากจระเข้ยกคอสูงได้ไม่มาก จึงมองไม่เห็นส่วนที่เหลือของสัตว์ตัวนี้  มองเห็นแต่ขา สีเหลืองๆของมัน  แต่แล้วจระเข้ต้องตกใจสุดขีดเมื่อเจ้าสัตว์ตัวนี้ลดหน้าลงมาใกล้กับหน้าของเขา  เพื่อดื่มน้ำในแม่น้ำ จระเข้จึงได้มองเห็นหน้าของมัน ช่างมีหน้าตาประหลาดอะไรเช่นนี้

จระเข้รวบรวมความกล้า แล้วเอ่ยทักทายสัตว์ตัวนั้นก่อน “สวัสดี ข้าคือจระเข้ แล้วเจ้าคือใคร”
สัตว์ตัวนั้นตอบว่า “ข้าว่าคือยีราฟ ข้าหลงทางมาจากบ้าน  รู้สึกกระหายน้ำจึงก้มลงดื่มน้ำที่นี่ ข้ากำลังกังวลว่า จากนี้ไป ข้าจะหาทางกลับบ้านได้อย่างไรกัน”

จระเข้ช่วยคิดอยู่พักใหญ่  ความคิดที่ว่าจะให้ยีราฟอาศัยยืนบนหลังแล้วให้จระเข้พาไปที่ไหนๆ คงเป็นไปไม่ได้ เพราะยีราฟตัวใหญ่มาก จระเข้คงแบกน้ำหนักไม่ไหว  สักพักจระเข้ได้ความคิดที่ดี จึงเสนอขึ้นว่า “เอาอย่างนี้ก็แล้วกัน ข้ารู้จักป่าแถวนี้ดี  ถ้าเจ้ายอมให้ข้าขี่หลังเจ้าไปด้วย ข้าจะนำทางเจ้าออกจากป่านี้ได้”

ยีราฟเห็นด้วย จระเข้ดีใจมากที่จะได้อยู่ในที่สูงๆเช่นที่หลังของยีราฟกับเขาบ้าง คงได้เห็นทัศนียภาพอะไรใหม่ๆให้หายจำเจหน่อย  ทั้งสองจึงออกเดินทางร่วมกันไป โดยมีเจ้าจระเข้อยู่บนหลังของยีราฟ

จระเข้มีความสุขมากอยู่บนหลังของยีราฟ เพราะได้มองเห็นภาพต่างๆที่ตนไม่เคยเห็นมาก่อน แต่ก็ไม่ลืมที่จะทำหน้าที่บอกทางให้แก่ยีราฟ  แต่แล้ว ยังไม่พ้นไปจากป่า ฟ้าก็มืดเสียก่อน จำต้องค้างแรมอยู่ตรงที่โล่งริมหนองน้ำแห่งหนึ่ง จระเข้เดินหลบไปอาศัยนอนในหนองน้ำ ส่วนยีราฟ พับขาลง แล้วม้วนคอเก็บแนบตัว หลับอยู่ไม่ไกล 

เมื่อถึงตอนเช้า จระเข้ตื่นขึ้นพบว่ายีราฟหายไป  เห็นแต่นางฟ้ายิ้ม ยืนกินขนมนิ่งอยู่ จระเข้สงสัย จึงถามนางฟ้าว่า เห็นยีราฟไหม นางฟ้าตอบว่า “อ๋อ ยีราฟตัวนั้น ไม่ใช่ยีราฟจริงๆหรอก แต่เป็นขนมที่ฉันอบขึ้นมา  เจ้าน้องชายจอมซนของฉัน ใช้เวทยมนตร์เสกให้มันกลายเป็นสิ่งมีชีวิต แล้วเดินหลงหายไปในป่า ฉันบังคับให้น้องชายถอนมนตร์ เพราะฉันอยากกินขนมของฉัน ในที่สุดน้องชายก็ยอมแค่ครึ่งเดียว คือ ยอมถอนมนตร์ให้กลับมาเป็นขนม แต่ไม่ยอมนำกลับคืนมาให้ฉัน ฉันจึงต้องออกมาหาเองแบบนี้”

จระเข้ได้ฟังแล้ว ก็ร้องไห้เสียใจมาก ที่ต้องเสียเพื่อนใหม่ไป  ซ้ำยังไม่ได้เที่ยวชมสิ่งใหม่ๆตามที่ปรารถนาด้วย  ไม่ว่านางฟ้าจะปลอบอย่างไร จระเข้ก็ไม่หยุดร้อง นางฟ้าจึงยื่นข้อเสนอให้ว่า“เอาล่ะ ที่บ้านของฉันมีขนมอีกก้อนหนึ่ง ที่ฉันอบเสร็จแล้ว แต่ฉันทำมันแตกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย ถ้าเธอตามฉันไปต่อให้มันครบเป็นตัว ฉันสัญญาว่าฉันจะเสกให้เป็นยีราฟตัวจริง เพื่อจะได้มาเป็นเพื่อนกับเธอ”


จระเข้ตกลง ดังนั้น ทั้งสองจึงเดินทางไปบ้านนางฟ้าจุ๋ม เพื่อจัดการกับขนมนั่น จระเข้ตั้งใจต่อมาก ในที่สุดจระเข้ก็สามารถประกอบชิ้นขนมจนเป็นรูปร่างยีราฟ ได้สำเร็จ นางฟ้าพอใจมาก จึงเสกให้เป็นตัวจริงตามสัญญา  แต่อนิจจา ยีราฟตัวใหม่ มีรอยแตกเต็มตัวไปหมด  แรกๆนางฟ้ากับจระเข้เสียใจกับเรื่องนี้อยู่ แต่เมื่อมองไปมองมา มันก็ทำให้ยีราฟดูสวยงามดี  ไม่นานทุกคนก็ลืมเรื่องนี้ไป จระเข้ ได้ท่องเที่ยวชมความงามของป่าอย่างจุใจกับยีราฟเพื่อนรักตลอดมา


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น