วันเสาร์ที่ 3 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

นิทานหอศิลป์ 57 วันที่ 3


ที่เขาสามสี

วันหนึ่งสมเด็จย่าของเจ้าชายเล็กทรงประชวร (ไม่สบาย) ทรงบรรทมอยู่ตลอดเวลาหรือไม่ก็ทรงนั่ง  แทนที่จะทรงออกมาเดินเล่นเหมือนแต่ก่อน  เจ้าชายทรงเป็นห่วง เพราะไม่เคยเห็นสมเด็จย่า เป็นเช่นนี้มาก่อน นางในสันนิษฐานว่าท่านทรงประชวรทางใจ เพราะเหตุว่าสุนัขตัวโปรดของพระองค์หายไป
พระราชาเมืองสอง ได้เคยสั่งให้ทุกคนหาทั่วทุกซอกมุมของวังแล้ว ก็ไม่มีใครพบ พระราชาเกรงว่าหากสมเด็จย่าบรรทมทุกวันไปนาน ท่านอาจจะไม่สามารถทรงเดินได้อีก  เจ้าชายใหญ่จึงรับอาสานำทหาร 500 นาย ออกไปตามหายังบ้านเมืองและป่าเขา  โดยมีเจ้าชายเล็กติดตามไปด้วย

ในเมือง หลังจากเดินหาทุกบ้าน ทุกร้านค้า อาคาร โรงเรียน หรืออาราม ก็ไม่พบร่องรอยของสุนัขตัวนั้นเลย  เจ้าชายใหญ่จึงตัดสินใจออกตามหาในป่า อาจจะเดินหลงป่าไปและหาทางกลับวังไม่ได้ ก็ย่อมเป็นได้

แล้วนางฟ้ายิ้มก็มาพบเห็นทุกคนเข้าที่ป่า หลังจากที่ทราบว่าพวกเขาออกเดินกันมาทำไม นางฟ้ายิ้มให้คำแนะนำว่า ไม่ว่าใครที่หาสิ่งใดไม่พบ ก็จะสามารถพบได้ที่เขาสามสีในที่สุด  ทุกคนสนใจหันมาเงี่ยหูฟังนางฟ้า  “เขาสามสีอยู่ที่ไหนกัน” เจ้าชายกลางถาม นางฟ้าตอบว่า “ อยู่กลางป่า แต่วิธีจะหาให้พบนั้นต้องไปตามทางของดอกไม้รูปลูกศรดอกใหญ่ สีม่วงอ่อน  มีลำต้นเตี้ยๆ และมีใบเป็นสีฟ้า  หาไม่ยากหรอก”
“เมื่อพวกท่านไปถึงภูเขา จะรู้ได้ทันที เพราะมันมีสามสีต่อกัน เหมือนขนมสามชั้น  ทางขึ้นเขาจะมีต้นไม้พุ่มเตี้ยใบดกหนา เป็นแผ่นกลมๆ ให้ทหารรวมทั้งเจ้าชายทั้งสองเด็ดใบไม้นั้นมาไว้ที่ตัวคนละใบ แล้วจะขึ้นเขาได้โดยปลอดภัย ฉันไปเล่นต่อล่ะนะ” เจ้าชายกลางบอกขอบใจนางฟ้า แล้วทุกคนก็ออกเดินทางต่อไป

เมื่อมาถึงเชิงเขา เห็นว่าภูเขามีรูปร่างเหมือนขนมที่มีฐานกว้าง และมีปลายแหลม มีสามชั้น สามสี ดังคำเล่าลือ ที่เชิงเขา มีต้นไม้ต้นหนึ่งอยู่จริง ใบไม้ก็เขียวดีอยู่ แต่รูปร่างของใบ ไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อน มันกลมดิ๊กราวกับเอาวงเวียนไปวาดไว้ ทุกคนทำตามคำแนะนำของนางฟ้ายิ้ม ได้เด็ดมาคนละหนึ่งใบ ใส่กระเป๋าเสื้อตนเองไว้ รวมทั้ง เจ้าชายใหญ่ และเจ้าชายเล็กด้วย
จากนั้น ทั้งหมดก็คิดว่าจะปีนเขาลูกนั้น ได้อย่างสบาย แต่ก็เปล่า ไม่ว่าจะใช้วิธีปีนอย่างไร ก็ไม่เป็นผล เจ้าชายเล็กตะโกนถามนางฟ้ายิ้ม โดยที่ไม่รู้ว่าเธออยู่ไหน

นางฟ้ายิ้มปรากฏตัวด้วยอาการง่วงนอน แล้วพูดว่า “ อ้อ ลืมบอกไป ว่า การจะปืนได้นั้น ต้องต่อตัวกันขึ้นไป เมื่อต่อตัวเสร็จ ต้องทำท่าไม่เหมือนกับคนข้างล่าง จากนั้น หยิบใบไม้ที่เด็ดมานั้น เคี้ยวแล้วกลืนเข้าไป ตัวจะแข็งชั่วคราว เพื่อช่วยให้คนตามหลังมาปีนสะดวกขึ้น คนสุดท้ายที่แตะถึงยอดเขา จะช่วยให้ทุกคนคลายตัวแข็งและดึงตามกันขึ้นเขาได้หมด จากนั้นตอนลง ก็ไม่ต้องมีพิธีรีตอง สามารถไถลตัวลงกันมาได้ตามปกติ”  พูดจบนางฟ้าก็ขอตัวกลับไปนอนต่อ

ทุกคนปฎิบัติตาม เมื่อขึ้นไปถึงยอดเขาแล้ว ทุกคนก็ตามกันมาได้อย่างที่นางฟ้าพูดจริงๆ ข้างบนนั้น มีข้าวของมากมายสารพัดชนิด ไม่รู้ว่ามาจากไหนกันบ้าง ถ้าเช่นนั้น จะหาสุนัขของสมเด็จย่าพบได้อย่างไร ขณะกำลังคิดอยู่นั้น พลันมองเห็นป้ายไม้ปักไว้  เขียนไว้ว่า “ ต้องการพบของสิ่งใด ขอให้อธิษฐานจิตถึงของสิ่งนั้น แล้วท่านจะพบ”

ก็เป็นเช่นนั้น ทุกอย่างราบรื่น นำสุนัขมาส่งคืนสมเด็จย่าได้เรียบร้อย
แต่สมเด็จย่ากลับไม่ทรงเดินดังเดิม แม้จะได้สุนัขตัวโปรดกลับคืนมา เมื่อมีคนไปทูลถาม ท่านกลับตรัสว่า “ฉันปวดเข่าย่ะ ไม่เห็นมีใครถามฉันเลย ได้แต่สันนิษฐานเอาเอง เจ้าสุนัขนั่นอะไรนั่นก็ไม่เกี่ยวหรอก”




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น