ธรรมชาติวิปริต
วันหนึ่งเกิดปรากฏการณ์ประหลาด
พืชพรรณไม้ทั้งหลาย พากันเปลี่ยนสีสัน และค่อยๆมีขนาดใหญ่โตขึ้นๆ
แต่ก็เกิดขึ้นเร็วชนิดที่หาสาเหตุไม่ทัน ปัญหาที่สำคัญคือขนาดที่ใหญ่โตขึ้นเรื่อยๆของมันนี้
ทำให้แดดที่เคยส่องทั่วหมู่บ้านถูกบดบัง บ้านเมืองมีอุณหภูมิลดลงเรื่อยๆ เมื่อถึงฤดูหนาว มีทั้งหิมะ ลูกเห็บ
น้ำค้างแข็งทั่วไปหมด เมื่ออากาศอุ่นขึ้น
น้ำแข็งต่างๆพากันละลาย
ประกอบกับลมพายุฝนที่กระหน่ำตกอย่างหนักเพราะมีป่าทึบอยู่มากมาย
ก่อให้เกิดน้ำท่วมเมืองขนานใหญ่อย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
บ้านเมืองของทั้งเจ้าหญิงน้อย
และเจ้าชายเล็กต้องจมลงใต้น้ำ ผู้คนหนีรอดด้วยการปีนต้นไม้ที่สูงพ้นน้ำ
และดัดแปลงลำต้นและกิ่งใบเพื่อเป็นที่อาศัย ซึ่งเมื่ออยู่กันไปนานเข้าๆ
ก็สบายพอสมควร พระราชาได้ส่งทหารดำน้ำ
ไปดึงเอาเครื่องอุปโภคบริโภคต่างๆจากใต้น้ำขึ้นมาเนืองๆ
แต่ปัญหาเกิดแล้วก็ต้องพยายามแก้
ยิ่งไปกว่านั้น
สัตว์บางอย่างเริ่มมีวิวัฒนาการที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว
เกิดเป็นสัตว์หน้าตาประหลาดขึ้นหลายชนิด
ทุกคนจึงช่วยกันคิดหาทางว่าจะทำให้บ้านเมืองกลับสู่สภาพเดิมได้อย่างไร
นางฟ้ายิ้มบอกว่า
งานนี้ใหญ่เกินตัวที่เธอจะช่วยได้ แต่คิดว่าต้องช่วยกันระดมพล
เหล่าบรรดานางฟ้าและเทวดาทั้งหลายให้มาช่วยจะดีกว่า
ปลาต่างๆเป็นมิตรมาก
ได้ว่ายลงไปนำสิ่งของขึ้นสู่ผิวน้ำให้ชาวบ้านได้ใช้กัน
เจ้าวาฬและพวกปลาตัวใหญ่ช่วยกันผลักและดัน ให้อาคารต่างๆผุดขึ้นสู่ผิวน้ำแต่ก็ทำไม่ได้
นางฟ้าและเทวดาค้นคาถากันให้จ้าละหวั่น
ในที่สุดก็พบคาถาหนึ่ง ทุกคนช่วยกันเสกด้วยไม้เท้าวิเศษไปที่ผืนดินใต้ผิวน้ำให้ช่วยดูดซับน้ำให้มากขึ้น
และช่วยกันเสกคาถาริดใบและกิ่งออกบ้าง
แสงอาทิตย์สามารถสาดส่องได้ทั่วถึงในบริเวณกว้าง
ตั้งแต่นั้นมา
ธรรมชาติเริ่มปรับเข้าสู่ภาวะสมดุล แม้จะยังมีสิ่งใหม่เกิดขึ้นบ้างก็ตาม